วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553

ทิ้งหมัดเข้ามุม มันฯ มือเสือ

มาตรา 44 เป็นหัวข้อวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมมากที่สุดในเวลานี้



ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. เปิดเผยภายหลังการประชุมครม.วันอังคารที่ผ่านมา เพียงว่าได้ทูลเกล้าฯ ขอยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึกแล้ว



ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มาตรา 44 ที่จะมาแทนมีเนื้อหาอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ชี้แจงลึกลงในรายละเอียด เพียงแต่ยืนยันจะใช้อำนาจตรงนี้อย่างสร้างสรรค์เพื่อดูแลความมั่นคงประเทศ


สังคมไทยขณะนี้พูดกันเป็น 2 ทางเกี่ยวกับการยกเลิกกฎอัยการศึก



บ้างว่าเป็นการถอยก้าวแรกในรอบ 10 เดือนหลังการรัฐประหาร 22 พฤษภาฯ 57 เพื่อผ่อนคลายบรรยากาศความตึงเครียดภายในประเทศและลดแรงเสียดทานจากต่างประเทศ



แต่อีกด้านหนึ่งหลายคนเป็นห่วงว่าอาจเป็นแผนลับ-ลวง-พราง หรือถอยอำพรางรุก ตราบใดที่ยังไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาที่แท้จริงของกฎหมายที่จะออกมา รองรับการใช้อำนาจดังกล่าว



ส่วนเรื่องที่ต้องการลดแรงต้านจากต่างประเทศ ก็ต้องดูกันอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่



เพราะประเด็นการต่อต้านไม่ได้อยู่ตรงกฎหมายที่คสช.ใช้จะเรียกว่ากฎอัยการศึก หรือเรียกว่ามาตรา 44 หรืออะไรก็ตาม



แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่สิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชน



อย่างเรื่องการใช้ศาลทหารที่พล.อ. ประยุทธ์ บอกว่าจะเพิ่มเป็น 3 ศาล คือ ศาลทหาร ศาลทหารกลาง และศาลทหารสูงสุดนั้น



แม้จะฟังดูดี แต่ไม่ใช่ประเด็น



เพราะประเด็นที่มีการรณรงค์อยู่ในตอนนี้ คือ คดีที่เกี่ยวข้องกับพลเรือนก็ต้องขึ้นศาลพลเรือน ต้องไม่ขึ้นศาลทหารเด็ดขาดไม่ว่ากรณีใดๆ หรือไม่ว่าศาลทหารจะมีกี่ศาลก็ตาม



ในจังหวะที่พล.อ.ประยุทธ์กำลังจะใช้อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ ตัดเสื้อไซซ์เดียวให้คนไทยใส่ทั้งประเทศ



มีนักวิชาการด้านประชาธิปไตยหลายคนแสดงความเห็นทักท้วงเรื่องนี้เอาไว้ จึงอยากให้รัฐบาลคสช.เก็บเอาไปคิดพิจารณาเป็นการบ้าน



ก็ไม่รู้ว่าจะสายไปแล้วหรือไม่



ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก:  khaosod


0 comments:

แสดงความคิดเห็น

Copyright © 2014 News Girl