นสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี (PerMAS) พร้อมนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง นายมูฮำหมัดเซาฟีร อาแซ ผู้ช่วยผู้ประสานงานสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี (PerMAS) พร้อมนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง จำนวน 30 คน ร่วมแถลงการณ์ เรื่อง การละเมิดสิทธิมนุษยชน และคุกคามเยาวชนนักศึกษา โดยใช้เวลาแถลงการณ์ประมาณ 1 ชม. ด้าน นายมูฮำหมัดเซาฟีร กล่าวว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปิดล้อมตรวจค้น และควบคุม




ตัวเยาวชนนักศึกษามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็นนักกิจกรรมเพิ่อสันติภาพ จำนวน 22 คน เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยใช้กฏอัยการศึกนั้น ซึ่งเหตุการณ์ปิดล้อมตรวจค้นหอพักนักศึกษากิจกรรม และควบคุมตัวนักศึกษา เกิดขึ้นบ่อยครั้งมากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือปาตานี จากสถิติการปิดล้อม ตรวจค้นและจับกุม โดยใช้กฎอัยการศึกพบว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนจำนวนมาก ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลไทยได้ประกาศยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึก ฉบับ 1/2557 ทั่วราชอาณาจักร และออกคำสั่งใช้รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) มาตรา 44 ท่ามกลางความเป็นห่วงกังวลของหลายๆฝ่าย แต่ก็น่าเจ็บปวดสำหรับชาวปาตานี ที่ยังคงมีกฎอัยการศึกประกาศใช้ในปาตานีไม่ได้ถูกยกเลิกไปด้วย นำมาสู่การใช้อำนาจในการคุกคามเยาวชนนักศึกษาครั้งนี้
นายมูฮำหมัดเซาฟีร กล่าวต่อว่า สหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี เป็นองค์กรทางการเมืองที่เคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพปาตานี โดยยึดหลักประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ขอเรียกร้องดังต่อไปนี้ 1.ขอให้มีการปล่อยตัวนักศึกษาทั้งหมดโดยทันทีหยุดคุกคามเยาวชนนักศึกษาและขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนร่วมกันเฝ้าระวังเพื่อมิให้การละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนการซ้อมทรม่านเกิดขึ้นอีก 2.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยที่กรุงเทพฯยกเลิกกฎอัยการศึกที่ประกาศใช้ในพื้นที่ปาตานีซึ่งมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นจำนวนมากจากการใช้กฎอัยการศึก และถือเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่หล่อเลี้ยงไฟความขัดแย้งและความรุนแรงในพื้นที่มาโดยตลอด หลังจากเสร็จสิ้นแถลงการณ์ กลุ่มสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี ได้รวมตัวกันทำกิจกรรมร้องเพลงเพื่อเรียกสันติภาพโดยร้องเพลงเป็นภาษายาวี ก่อนที่จะร้องตะโกนให้ปล่อยเพื่อนนักศึกษาที่ถูกจับกุม ซึ่งหลังจากนี้หากรัฐบาลยังคงนิ่งเฉยต่อข้อเรียกร้องจำนวน 2 ข้อ ทางกลุ่มฯก็จะมีการยกระดับการชุมนุมขึ้นอีก.
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก: dailynews
0 comments:
แสดงความคิดเห็น